เมื่อที่ดินตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน

     ๑. จะโอนแก่กันไม่ได้ เว้นแต่จะอาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะหรือพระราชกฤษฎีกา(มาตรา ๑๓๐๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์)
       ๒. ผู้ใดจะยกอายุความขึ้นต่อสู้กับแผ่นดินไม่ได้ (มาตรา ๑๓๐๖ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์) แต่ในกรณีที่เป็นสาธารณประโยชน์ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ประชาชนย่อมมีสิทธิใช้สอยทรัพย์สิน แต่ในการใช้สอยจะต้องไม่เป็นการรบกวนสิทธิหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น การที่เจ้าของที่ดินขึงรั้วลวดหนามรุกล้ำเข้าไปในทางสาธารณประโยชน์ ทำให้ผู้อื่นไม่สามารถใช้รถยนต์บรรทุกผ่านไปมาได้ตามปกติ ถือว่าผู้ขึงรั้วลวดหนามได้กระทำละเมิด ต้องใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ที่ไม่สามารถใช้รถยนต์บรรทุกผ่านเข้าออกทางสาธารณประโยชน์ได้
      ๓. จะยึดเพื่อการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลไม่ได้ (มาตรา ๑๓๐๗ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์) แม้ขณะยึดจะไม่ทราบว่าเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ก็ไม่ทำให้การยึดนั้นมีผลต่อแผ่นดินได้ การยึดนั้นไม่มีผลทางกฎหมายแต่อย่างใดที่ดินที่เป็นของเอกชนจะเป็นที่สาธารณประโยชน์ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ เช่น ทางสาธารณะ ก็โดยการอุทิศ ซึ่งการอุทิศที่ดินให้เป็นทางสาธารณประโยชน์นั้นไม่มีกฎหมายลายลักษณ์อักษรบัญญัติไว้โดยตรงว่า การอุทิศมีวิธีการอย่างไร แต่มีกฎหมายจารีตประเพณีว่า ถ้าเจ้าของที่ดินอุทิศที่ดินของตนให้เป็นทางสาธารณประโยชน์แล้ว ที่ดินตามที่อุทิศก็กลายเป็นที่สาธารณประโยชน์ไป โดยไม่ต้องกระทำพิธีการอย่างใดและแม้จะไม่ได้ทำการจดทะเบียนก็ตาม ปัญหาว่า จะมีการอุทิศให้เป็นทางสาธารณประโยชน์หรือไม่ เป็นข้อเท็จจริง การอุทิศอาจเป็นการอุทิศโดยตรง เช่น เจ้าของที่ดินทำหนังสือแสดงเจตนาต่อนายอำเภอหรือเทศบาลอุทิศที่ดินของตนให้เป็นทาง หรืออาจเป็นการอุทิศโดยปริยายก็ได้ โดยการที่เจ้าของที่ดินยอมให้สาธารณชนใช้สอยที่ดินในฐานะเป็นทางสาธารณประโยชน์จนเห็นได้ว่าเจ้าของที่ดินมีเจตนาอุทิศแล้ว กล่าวคือเจ้าของที่ดินไม่ได้แสดงว่าที่ดินส่วนที่เป็นทางนั้นตนยังครอบครองอยู่ มีข้อสังเกตว่าการอุทิศต่างจากการยอมห้ผู้อื่นใช้สอยทางนั้นโดยเจ้าของยังสงวนสิทธิอยู่ เช่น เจ้าของที่ดินปักป้ายว่า ทางส่วนบุคคลสงวนสิทธิกรณีเช่นนี้แม้ประชาชนจะใช้สอยทางนี้มานานเท่าใดก็ไม่มีทางที่จะทำ ให้ที่ดินนั้นเป็นทางสาธารณประโยชน์ได้ แต่ในทางกลับกันดังได้กล่าวแล้วว่า แม้ไม่จดทะเบียนการโอนอย่างเอกชนทั่วไป ที่ดินก็เป็นสาธารณประโยชน์แล้ว ถ้าเจ้าของแสดงเจตนาอุทิศ และการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ย่อมเป็นโดยสภาพการใช้ ดังเช่น
             คำพิพากษาฎีกาที่ ๘๔๓/๒๕๒๓ การอุทิศที่ดินให้เป็นทางสาธารณประโยชน์เป็นการสละที่ดินให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน ตามมาตรา ๑๓๐๔ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ไม่จำเป็นต้องทำพิธีจดทะเบียนอย่างโอนให้แก่เอกชน แม้เป็นที่ดินมีโฉนดหากเจ้าของที่ดินนำที่ดินไปขาย ผู้ซื้อก็ไม่ได้สิทธิในที่ดินส่วนที่อุทิศให้เป็นทางสาธารณประโยชน์แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การเป็นทางสาธารณประโยชน์ย่อมเป็นโดยสภาพการใช้ แม้ไม่ปรากฏหลักฐานทางทะเบียนก็ตาม

ที่มา จากกรมที่ดิน